ประวัติโรงเรียน
เมื่อปี พ.ศ.2526 (ค.ศ.1983) ฯพณฯ ยอด พิมพิสาร พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลอุดรธานี ได้เจรจาปรึกษากับผู้ใหญ่ของคณะเพื่อขอให้รับกิจการของ ”โรงเรียนวิสุทธิวงศ์โพนสูง” ซึ่งเป็นโรงเรียนสหศึกษาระดับประถมศึกษาของสังฆมณฑล บริหารโดยซิสเตอร์แห่งสังฆมณฑลท่าแร่ ซึ่งได้แสดงเจตจำนงการถอนตัวจากการดูแลกิจการนี้ ดังนั้น ฯพณฯ ยอด พิมพิสาร จึงได้ประกาศมอบสิทธิการเป็นเจ้าของกิจการโรงเรียนนี้แก่คณะของเรามาเดอร์ มารีเนลลา กาสตาโญ ที่ปรึกษาของคณะฝ่ายงานอภิบาลเยาวชนได้มาเยี่ยมเมืองไทย ในเดือนเมษายน ค.ศ.1983 จึงเป็นโอกาสดีที่ท่านได้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนที่โพนสูง และได้พิจารณาว่าหมู่บ้านโพนสูงเป็นสนามงานแพร่ธรรมจริง ๆ ท่านจึงได้ให้กำลังใจแก่ผู้ใหญ่ระดับแขวงที่จะรับมอบกิจการแห่งนี้ ดังนั้นในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1984 ซิสเตอร์หมู่คณะแรกจำนวน 4 ท่านจึงได้ไปอยู่ท่ามกลางเด็ก ๆ และเยาวชนยากจนที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อเป็นทูตนำสารแห่งความรักของพระเจ้าไปมอบให้แก่พวกเขา คณะซิสเตอร์ได้เริ่มลงมือทำงานทันทีด้วยความใจกว้าง และจิตตารมณ์แห่งความเสียสละ เพื่อจัดโรงเรียนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นสถานที่ต้อนรับทุกคนด้วยบรรยากาศแห่งความเป็นกันเอง แห่งมิตรภาพและร่าเริงยินดีแบบซาเลเซียน ในการเริ่มต้นกิจการนั้นก็ประสบกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ มิได้ขาด เป็นต้นการขาดแคลนน้ำดื่ม การซ่อมแซมบ้าน จัดหาสถานที่สำหรับโรงครัวและโรงซัก นอกจากการบริหารโรงเรียนสหศึกษาระดับประถม ซึ่งมีนักเรียนที่ยากจนที่สุด จำนวน 600 คนแล้ว บรรดาซิสเตอร์ยังรับหน้าที่เป็นผู้ปลุกเร้าด้านพิธีกรรมของวัดใหญ่ด้วยความร้อนรน พร้อมกับเริ่มจัดศูนย์เยาวชนวันอาทิตย์ทันที เพียงไม่กี่สัปดาห์ เด็กชายหญิงต่างแสดงความสุขและดีใจ เพราะว่าบรรดาซิสเตอร์อยู่กับพวกเขา จัดเล่นเกมต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขาสนุกสนานร่าเริง และห่างไกลจากบาปแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการสอนคำสอน และจบวันด้วยการอวยพรศีลมหาสนิทในวัดใหญ่ จากนั้นไม่นาน ทั้งเด็กและเยาวชนรวมทั้งผู้ใหญ่ก็เข้าใจหน้าที่คริสตชนในการไปวัดวันอาทิตย์ โดยยินดีไปร่วมมิสซาในตอนเช้า และร่วมพิธีอวยพรศีลมหาสนิทในตอนบ่าย ทำให้คุณพ่อเจ้าอาวาสซึ่งเคยปรารภว่าไม่สามารถทำให้เด็ก ๆ เข้าใจถึงหน้าที่คริสตชนต้องพิศวงใจไม่น้อยกับการเปลี่ยนแปลงไปไนทางที่ดีเช่นนี้ นี่แหละแบบอย่างที่คุณพ่อบอสโกได้ปฏิบัติตลอดชีวิตของท่านและกำชับให้บุตรธิดาของท่านปฏิบัติตามด้วย คือ ในที่ซึ่งเยาวชนไม่เพียงแต่เป็นที่รัก แต่เขาเองรู้สึกว่าเรารักเขาและเห็นว่าเราต้อนรับและเข้าใจในสิ่งที่เขาชอบแล้ว เขาจะได้ยอมรับสิ่งที่เราเสนอให้โครงการอภิบาลของเรายังมุ่งเสริมสร้างพัฒนาเยาวชนในทุก ๆ ด้านตามศักยภาพของตน ด้วยเหตุนี้ จึงเริ่มโครงการศูนย์ตัดเย็บสำหรับนักเรียนหญิงซึ่งเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ มีความปรารถนาที่จะเรียนฝึกอาชีพด้านการตัดเย็บ คณะจึงได้อนุมัติให้ดำเนินการโดยได้การสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพจากองค์กร “Kinder Mission Work ” ของประเทศเยอรมัน และการก่อสร้างได้แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2529 (ค.ศ.1986)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น